สิ่งหนึ่งเลยที่ขาดไม่ได้ในทุกบ้านและอาคาร คือถังเก็บน้ำ ทั้งนี้ถังเก็บน้ำที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามี 2 ประเภทหลักดังนี้
1. ถังเก็บน้ำบนดิน เหมาะสำหรับบ้านหรืออาคารที่มีพื้นที่ติดตั้งพอสมควร ดูแลรักษาง่าย และเคลื่อนย้ายได้ง่าย a. ถังเก็บน้ำพลาสติก - มีลวดลายสีสันสวยงามให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยียับยั้งเชื้อแบคทีเรียในน้ำ เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ผิวเรียบ เนื่องจากตัวถังถูกออกแบบให้วางบนพื้นราบ ทำให้รูถ่ายน้ำทิ้งอยู่ด้านข้างและอาจมีตะกอนหลงเหลือในถังน้ำเมื่อใช้ไปในเป็นเวลานาน แต่ฐานวางต้องลงเสาเข็มสั้นเพื่อรับน้ำหนัก
b. ถังเก็บน้ำสเตนเลส - ตัวถังมีขายกสูงขึ้นมาจากพื้น และมีรูถ่ายน้ำทิ้งอยู่ด้านล่างทำให้ทำความสะอาดตะกอนในถังได้ดีกว่า
2. ถังเก็บน้ำใต้ดิน เหมาะสำหรับบ้านหรืออาคารที่มีพื้นที่จำกัด ต้องมีโครงสร้างรับน้ำหนักถัง แต่การดูแลรักษายากกว่าถังเก็บน้ำแบบบนดิน
a. ถังเก็บน้ำคอนกรีต - ต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงรอบรับน้ำหนักของน้ำ อีกทั้งยังต้องใช้วัสดุปิดผิวด้านในเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ
b. ถังเก็บน้ำพลาสติกชนิดติดตั้งใต้ดิน - ต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงรองรับน้ำหนักของน้ำ แต่สามารถติดตั้งได้รวดเร็วกว่าแบบคอนกรีต โดยก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกขนาดของถังเก็บน้ำนั้น ทาง สหวัฒน์ มีสูตรง่ายๆที่ใช้คำนวณขนาดของถังเก็บน้ำดังนี้ = จำนวนวันที่ต้องการสำรองน้ำ x จำนวนคนผู้ใช้น้ำภายในบ้าน x 200 ลิตร ยกตัวอย่างเช่นบ้านทั่วไปที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นจำนวน 3 คน และต้องการที่จะสำรองน้ำให้พอสำหรับ 3 วันนั้น = 3 x 3 x 200 = 1800 ลิตร
